เทียบสเปกชัด ๆ iPhone 15 ราคา สุดคุ้ม พร้อมเหตุผลที่น่าซื้อกว่ารุ่นเดิม

[asider8629]

iPhone 15 เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีข้อมูลสเปก iPhone 15 ในราคา ให้เปรียบเทียบกับรุ่น iPhone 14 ช่วยให้ผู้ที่กำลังอยากอัปเกรดโทรศัพท์มือถือได้ตัดสินใจง่ายขึ้น

เปรียบเทียบ iPhone 15 กับ iPhone 14 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus
ทั้งสองรุ่นมีขนาดหน้าจอคงเดิมคือ 6.1 นิ้ว ดีไซน์โดยรวมยังคงคล้ายกับรุ่น iPhone 14 ตัวเครื่้องทรงเหลี่ยมขอบโค้งมน ขอบจอด้านข้างบางลง แต่เพิ่มเติมฟีเจอร์ Dynamic Island มีให้ทุกรุ่น เพื่อปรับการทำงานแสดงการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์ ต่างจาก iPhone 14 ที่จะมี Dynamic Island แค่ในรุ่น Pro เท่านั้น มีอัตรารีเฟรชสูงสุด 60Hz ความสว่างสูงสุด 2000 นิต
มาพร้อมกับตัวเครื่องวัสดุอะลูมิเนียมเหมือนเดิม ขอบเฟรมตัวเครื่องปรับให้โค้งมนขึ้นเล็กน้อย พร้อมกระจกฝาหลังแบบด้าน จอแสดงผลแบบ OLED Super Retina XDR 60Hz เหมือนเดิม แต่จอสว่างมากขึ้นจึงใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ทั้ง ไอโฟน 15 และ iPhone 15 Plus ระบบกล้องคู่แนวทะแยงไม่ต่างจากรุ่นก่อน กล้องหลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล เพิ่มระบบซูมระยะ 2 เท่า ทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพ ใช้ชิป Apple A16 Bionic ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อนและเคยใช้บน iPhone 14 Pro มาก่อน ในรุ่น  ไอโฟน 15 เล่นวิดีโอติดต่อกันสูงสุด 20 ชั่วโมง ส่วน iPhone 15 Plusเล่นวิดีโอติดต่อกันสูงสุด 26 ชั่วโมง ใช้งานได้กับพอร์ต USB-C แต่ความเร็วก็ยังไม่ต่างจากเดิมนัก เพราะยังคงเป็นมาตรฐาน USB 2.0 แต่ดีที่มี Display Port ใช้ส่งภาพขึ้นจอมอนิเตอร์หรือจอทีวีได้
ราคาของไอโฟน 15 รุ่น 128GB เริ่มต้นที่ 32,900 บาท, ความจุ 256GB ราคา 36,900 บาท และ ความจุ 512GB ราคา 45,900 บาท
สำหรับiPhone 15 ในราคา รุ่นPlus  128GB ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท, ความจุ 256GB ราคา 41,900 บาท และ ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท

สำหรับรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ใช้วัสดุไทเทเนียมที่ทนทาน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเครื่องมากกว่าเดิมและน้ำหนักเบาขึ้นด้วย เปลี่ยนจากเดิมรุ่น iPhone 14 Pro Max ใช้วัสดุสแตนเลสสตีล ส่วน iPhone 15 รุ่นมาตรฐานนั้นได้เปรียบกว่า ไม่ว่าจะตัวเครื่องเล็ก มีฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ น้อยกว่า และยังใช้อะลูมิเนียมที่เบากว่าด้วย ในส่วนของเฟรมใช้พื้นผิวแบบขัดด้านและโค้งมนมากขึ้นช่วยให้จับได้ถนัดมือและไม่ติดนิ้วมือง่าย จอแสดงผลรุ่น iPhone 15 Pro จอสวย จอบาง รองรับฟีเจอร์ Pro Motion มีอัตรารีเฟรชสูง 120Hz ได้ภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและสบายตา
ทั้งสองรุ่นใช้ชิป Apple A17 Pro ใหม่ให้ประสิทธิภาพความแรงดีกว่ารุ่นก่อน ได้ทั้งความแรงและความประหยัดกว่ารุ่นก่อน อยากได้กล้องดี ๆ แนะนำให้เลือก iPhone 15 Pro Max กล้องความละเอียดสูง มาพร้อมกับเซนเซอร์ Li-DAR ช่วยวัดระยะพื้นที่อย่างแม่นยำ เซนเซอร์กันสั่นแบบ Sensor Shift ถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ถ่ายรูป 3 มิติเพิ่มเข้ามาด้วย ที่สำคัญคือเซนเซอร์กล้อง Telephoto ซูมไกลถึง 6 เท่า ถือว่าตอบโจทย์คนชอบกล้องที่สุด
ในรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro เล่นวิดีโอติดต่อกันสูงสุด 23 ชั่วโมง และ iPhone 15 Pro Max เล่นวิดีโอติดต่อกันสูงสุด 29 ชั่วโมง ได้เปรียบมากกว่ารุ่นอื่น สำหรับพอร์ต USB-C ในสองรุ่นนี้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษอย่าง ProRes เหมาะกับงานถ่ายวิดีโอได้แบบเต็มคุณภาพ และส่งไปปรับสีตัดต่อวิดีโอได้ง่าย
iPhone 15 ในราคา รุ่น Pro ราคา 41,900 บาท ในรุ่นความจุ 128GB, ความจุ 256GB ราคา 45,900 บาท, ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท และ ความจุ 1TB ราคาเริ่มต้น 63,900 บาท
สำหรับ ราคาของไอโฟน 15 Pro Max ในรุ่นความจุ 256GB ราคา 48,900 บาท, ความจุ 512GB ราคาเริ่มต้น 57,900 บาท และความจุ 1TB ราคาเริ่มต้น 66,900 บาท

สรุป iPhone 15 แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นธรรมดาทั้งพกพาสะดวก น้ำหนักเบา และใช้งานคล่องตัว ถือว่า iPhone 15 ในราคา ไม่แรงและใช้งานตอบโจทย์ความต้องการได้ครบถ้วน แต่ถ้าชอบหน้าจอใหญ่และแบตเตอรี่อึดมากขึ้นก็เลือก iPhone 15 Plus สำหรับสายครีเอเตอร์ถ่ายงานแบบจริงจังและสายเกมเมอร์ต้องการมือถือตัวท็อป แนะนำเป็นรุ่น iPhone 15 Pro หรือ iPhone 15 Pro Max ผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นล่าสุดได้ที่ AIS พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่าง ๆ

ที่มาข้อมูล
https://www.sanook.com/hitech/1584407/
https://www.iphone-droid.net/5-differences-iphone-15-pro-vs-iphone-14-pro/
https://mobile.kapook.com/view7504.html
https://droidsans.com/compare-iphone-15-iphone-15-plus-iphone-15-pro-iphone-15-pro-max/